เดือนกรกฎาคม ของทุกปี ในตอนกลางของเกาะฮอกไกโด สถานที่ฮิตหลัก คงจะหนีไม่พ้นเมืองฟุราโนะ เมืองที่เหมือนเป็นหนึ่งในภาพลักษณ์อันโดดเด่นของฮอกไกโด กับวิวทุ่งลาเวนเดอร์ ลองนึกภาพจินตนาการถึงทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงสด ทอดยาวไปในแปลงปลูก มีฉากหลังเป็น กระท่อม บวกฟ้าสีคราม และภูเขาหิมะในส่วนปลายสุด โอ้ววว ในฝันเลย
หน้าร้อนของฮอกไกโด ไฮไลท์เด็ดก็ต้องเหล่าดอกไม้ใบหญ้า และดาวเด่น “ดอกลาเวนเดอร์” และจะไม่ไปไม่ได้เลย ก็คือ ฟาร์มโทมิตะ
รู้จักกันก่อน
ฟาร์มโทมิตะ เดิมเป็นฟาร์มปลูกลาเวนเดอร์เพื่อทำน้ำหอม ตั้งแต่ปี 1958 แต่ในช่วงหลังๆ นั้นเกิดวิกฤตราคาน้ำหอมตกต่ำ จนคุณโทมิตะคิดจะยุติการทำฟาร์มนี้ แต่แล้วความปาฎิหาริย์ก็เกิดขึ้นในปี 1976 ที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็จากการที่ช่างภาพได้แวะมาถ่ายภาพที่นี่ในช่วงหน้าร้อน และการรถไฟของญี่ปุ่น ใช้ภาพทุ่งลาเวนเดอร์ของฟาร์มแห่งนี้ เป็นหนึ่งในภาพของปฏิทินการรถไฟ จัดพิมพ์กระจายออกไปทั่วประเทศ ใครจะเชื่อว่าเพียงแค่ภาพๆ เดียว ก็ทำให้ที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ผู้คนเริ่มอยากเห็นสถานที่จริงดุจเทพนิยาย เริ่มหลั่งไหลแวะเวียนเข้ามายังที่นี่ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระจายออกไปอย่างแพร่หลายในระดับสากลจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งหลังจากที่ฟาร์มได้โฟกัสแค่เรื่องน้ำหอมเพียงอย่างเดียว ก็ได้ขยายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกไปอย่างหลากหลาย เช่น ถุงหอม ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เป็นต้น ว่ากันว่าถุงหอมของที่นี่ ใช้ดีไซน์เดียวกันกับสมัยก่อนที่เริ่มกิจการใหม่ๆ เลยทีเดียว ทำให้ใครแวะมาก็ได้รับรู้ถึงความคลาสสิค ความวินเทจของฟาร์มแห่งนี้ได้
เอาล่ะ คร่าวๆ กับเรื่องราวกันไปแล้ว สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวฟุราโนะ ไม่ใช่แนวนั่งรถไฟถึงที่ หรือขับรถยนต์ส่วนตัวมาเที่ยว แต่เป็นสายลุยๆ หน่อย ชอบกิจกรรมกลางแจ้งบ้าง เราจะมาแนะนำการเช่าจักรยาน แล้วปั่นไปเที่ยวที่ฟาร์มโทมิตะแบบชิลเอาท์กัน ฟาร์มโทมิตะอยู่ห่างจากสถานีฟุราโนะ ไปทางเหนือประมาณ 8 กิโลเมตร
จากซัปโปโร สามารถนั่งรถไฟ JR แบบด่วนพิเศษ มาถึงเมือง ฟุราโนะ ได้โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แนะนำให้ออกเช้าๆ จากซัปโปโร จะได้มาถึงไวๆ ลงที่สถานี JR Furano เป็นสถานีเล็กๆ เดิน 5-6 ก้าว ก็ทะลุจากชานชาลา ไปยังถนนได้ พอออกมาแล้วให้มองซ้ายไว้ จะมีร้านให้เช่าจักรยาน อยู่ติดกับสถานีเลย ส่วนฝั่งขวาจะมีตู้ Tourist Information สามารถสอบถามข้อมูลร้านอาหาร รับแผนที่ ได้เลย
ร้านเช่าจักรยาน “ลาเวนเดอร์ช็อป โมริยะ” เป็นร้านขายของที่ระลึก และมีจักรยานให้เช่าประมาณ 30 คัน ดังนั้นใครไปก่อนก็ได้ก่อนน๊า เปิดเข้าไปในร้านจะได้กลิ่นหอมอโรม่าของลาเวนเดอร์ ให้รู้ว่ามาถึงถูกที่แน่นอน เมืองแห่งดอกไม้ ฟุราโนะ
จักรยานที่ร้านนี้จะมีให้เช่า 2 แบบ คือ
- จักรยานแบบธรรมดา เป็นจักรยานแม่บ้านทั่วไป มีตะกร้าใส่ของด้านหน้า แบบนี้ราคาอยู่ที่ 200 เยน/ชั่วโมง
- จักรยานแบบไฟฟ้า เป็นจักรยานแม่บ้านแบบข้างบน แต่เพิ่มพิเศษกว่า คือมีออฟชั่นไฟฟ้าในการช่วยปั่น ทำให้ทุ่นแรงได้เยอะ ค่าเช่าอยู่ที่ 500 เยน/ชั่วโมง
เราแนะนำแบบไฟฟ้าดีกว่า เพราะทุ่นแรงปั่นได้ดี พอเจอเนิน หรือทางชันก็ไม่ต้องออกแรงเยอะไง เอาพลังไปโพสท่าถ่ายรูปดีกว่า (แต่ถ้าไม่ไปไกลมาก ปั่นเล่นแถวๆ สถานี ก็เอาแบบธรรมดาก็ได้)
เมื่อเลือกแล้ว ก็จะต้องกรอกเอกสารการเช่า และเบอร์โทร หลังจากนั้นคุณลุงก็จะพาไปเลือกจักรยาน ซึ่งเราเลือกแบบไฟฟ้า คุณลุงเจ้าของก็จะอธิบายวิธีใช้งาน และให้เราลองขี่ก่อน ปรับความสูงเบาะให้ จนแน่ใจแล้วก็โบกมือบ๊ายบายกัน
หน้าตาปุ่มสำหรับจักรยานไฟฟ้า
- ปุ่มบนสุด คือพลังงานไฟฟ้า ถ้าดับหมดแสดงว่าแบตหมดต้องปั่นด้วยแรงตัวเอง 100%
- ปุ่มกลาง คือ โหมดการทำงาน ให้เลือกเป็นบนสุด (สีส้ม=โหมดออโต้)
- ปุ่มล่าง คือ การเปิดปิดระบบการทำงานไฟฟ้า หากปิด ก็จะปั่นด้วยแรงตัวเองทั้งหมด
พร้อมแล้วก็ไปกันเลยถามทางคุณลุงคร่าวๆ บอกให้ข้ามสะพานรถไฟ จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายพอเข้าถนนใหญ่ตรงไปยาวๆ จนเจอป้ายฟาร์มโทมิตะ ตอนแรกเห็นว่ายาวไป 8 กิโล จะไหวเหรอ? จริงๆ ถ้าปั่นเล่นๆ คุยกัน แวะถ่ายรูป ดื่มน้ำบ้าง คิดว่าสัก 45 นาที ก็น่าจะถึงที่หมายแล้ว ได้เห็นวิวพาโนราม่า 2 ข้างทางสวยฟินเลย
เดี๋ยวนี้ยุคสมัยเปลี่ยน การใช้มือถือให้ช่วยนำทางเป็นเรื่องที่สะดวกสบายมากๆ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก แอพฯ Trippino HOKKAIDO มีระบบนำทางที่แม่นยำ (ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตระหว่างใช้งาน)
ถ้าเข้าถนนใหญ่แล้ว บอกก่อนว่าไม่มีร้านสะดวกซื้อเลย ดังนั้นก่อนออกจากฟุราโนะ มาที่ย่านนาคะฟุราโนะ (Naka Furano) ให้ซื้อเสบียงตุนไว้ใส่ตะกร้ารถได้จะดีกว่า โดยเฉพาะน้ำดื่ม และจัดการเข้าห้องน้ำในร้านให้เรียบร้อยก่อน
ทางตรงแบบนี้ ปั่นบนทางเท้าสบายใจเลย
เมื่อเข้าถนนใหญ่ จะผ่านแม่น้ำ ผ่านวิวไร่นาเกษตรกรรม ดูวิวสองข้างทางไป ปั่นไป แปปเดียวก็จะถึงแล้ว พอเข้าใกล้นาคะฟุราโนะ จะเจอกับป้ายบอกทางไปฟาร์ม ก็ปั่นตามป้ายไปได้เลย ระหว่างทาง ก็จะเจอกับบ้านที่ปลูกลาเวนเดอร์ด้วยนะ
แม่น้ำระหว่างทาง
ใครชอบแวะ มีอีกทีก่อนถึงจุดหมาย!
หากมีเวลา สามารถแวะไปสวน ลาเวนเดอร์เอน (Lavender En) ได้ จะอยู่ระหว่างทาง และมีป้ายบอก แบบภาพล่าง
ฤดูหนาวจะเป็นลานสกีฟุราโนะ นอกจากจะมาเล่นสกีได้ในหน้าหนาวแล้ว พอหน้าร้อนที่นี่จะถูกเนรมิตให้กลายเป็นแปลงปลูกลาเวนเดอร์ สามารถขึ้นไปชมวิวของเมืองนากะฟุราโนะได้โดยขึ้นสกีลิฟท์ ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 200 เยน อยู่ถัดจากฟาร์มโทมิตะมาเล็กน้อย หรือถ้ามาจากสถานีนากะฟุราโนะ ที่นี่จะตั้งอยู่ทางด้านหลังของสถานีนั่นเองจ้า
วิวของสวนลาเวนเดอร์เอน ในช่วงพีคๆ
หน้าตาตั๋ว
วิวสวย ถือว่าคุ้มค่าถ้าจะแวะมาชม
หากไม่แวะเข้าก็ปั่นตรงไปเรื่อยๆ พอเข้าเขต Naka Furano ก็จะเริ่มเห็นป้ายบอกทางไปฟาร์มโทมิตะเป็นระยะๆ จนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ยังไงก็ไม่หลงแน่นอน
ถึงแล้ว ฟาร์มโทมิตะ เล่นเอาเหนื่อยอยู่เหมือนกัน ช่วงที่เราไปเก็บข้อมูลเป็นปลายเดือน พฤษภาคม ทำให้ยังไม่เห็นทุ่งลาเวนเดอร์ แต่จะมีอยู่ให้ชมแปลงเล็กๆ ในกรีนเฮาส์ ซึ่งก็สามารถเรียกความสนใจให้นักท่องเที่ยวได้มากเหมือนกัน หลายๆ คนมารุมถ่ายรูปกันที่นี่เป็นส่วนใหญ่ ด้านนอกจะเป็นดอกป๊อปปี้ และดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิปลูกอยู่
ด้านหน้าฟาร์มเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่
ลาเวนเดอร์แปลงน้อยๆ ในกรีนเฮาส์
ด้านนอกช่วงที่ดอกไม้ยังไม่บาน ก็ดูสดชื่นไปอีกแบบ
ส่วนถ้ามาช่วงเดือน กรกฏาคม ก็จะได้เห็นความงดงามของทุ่งในฝันอย่างเต็มๆ แต่บอกไว้ก่อนว่าคนจะเยอะมากๆ ยิ่งช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ รถจะติด เพราะไม่แค่ชาวต่างชาติแบบเราๆ ที่ไปเที่ยวกัน ชาวญี่ปุ่นก็ไปกันเยอะมากๆ ทั้งแบบส่วนตัวและแบบกรุ๊ปทัวร์ ทำให้ที่นี่คึกคักเป็นพิเศษ
แปลงปลูกในบริเวณฟาร์ม
บริเวณแปลง 7 สี หรือเรียกว่า อิโรโดริ
สวยงามชวนฝัน
นอกจากดอกไม้ให้ถ่ายรูปแล้ว ที่นี่ก็ยังมีร้านขายของฝากต่างๆ ที่มาจากลาเวนเดอร์ล้วนๆ ที่ฮิตๆ ก็พวกน้ำหอม ถุงหอม สบู่ลาเวนเดอร์เป็นต้น หรือว่าลาเวนเดอร์จริงๆ แบบดอกแห้งก็มีให้ซื้อกลับไปด้วย
ดอกไม้แห้งแบบนี้ ซื้อกลับไปแต่งบ้าน ช่วยให้หวนคิดถึงฟุราโนะได้อย่างดี
เมื่อเที่ยว และกินอิ่มกันอย่างดีแล้ว ก็ได้เวลากลับ ส่วนขากลับ ก็ง่ายๆ ปั่นกลับทางเดิม ไปที่ร้านเพื่อคิดเงินว่าเช่าไปกี่ชั่วโมง ก็จ่ายกันไปตามระเบียบ รอบนี้เราไปแค่ฟาร์มโทมิตะที่เดียว ใช้ไปเวลาไปประมาณ 4 ชั่วโมง ค่าเช่าสำหรับแบบไฟฟ้าจึงอยู่ที่ 500×4 = 2,000 เยน ถือว่าคุ้มกับประสบการณ์การปั่นชิลๆ ในต่างประเทศ ได้ทำอะไรไม่เหมือนใครด้วย
หากใครอยากเช่าปั่นต่อในเมือง ที่ตัวเมืองก็มีสถานที่ต่างๆ มากมายให้ไปได้ เช่น โรงงานชีสฟุราโนะ, โรงงานไวน์, สวนสาธารณะ โดยในฤดูร้อนสถานที่เหล่านี้ก็จะมีการปลูกดอกลาเวนเดอร์เป็นแปลงเล็กๆ เอาไว้ให้ได้ถ่ายรูปเหมือนกัน ดังนั้นใครพลังเยอะ ก็ปั่นต่อได้เลยจ้า…
Tips
- ควรเช่าจักรยานไฟฟ้า จะช่วยทุ่นแรงได้อย่างมาก
- เช่าจักรยาน 1 คน ต่อ 1 คัน ห้ามซ้อนกัน (ตามกฎหมายของญี่ปุ่น)
- จุดบริการนักท่องเที่ยว มีฟรีไวไฟให้ใช้งาน ให้ขอแผนที่ต่างๆ ตรวจสอบวันหยุดร้านค้าได้ที่นี่
- ร้านเช่าจักรยาน สามารถรับฝากสัมภาระใหญ่ๆ ได้ด้วย หากไม่ได้เช่า สามารถฝากไว้ในราคา 300 เยน
- ควรซื้อน้ำดื่ม และเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนออกสู่ถนนใหญ่
- หากต้องการถ่ายรูประหว่างทาง อย่าเข้าไปในแปลงเกษตรของชาวญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนตัว
- ระหว่างทางเมื่อเข้าถนนใหญ่ จะมีร้านคาเฟ่ ร้านขนมปังน่านั่งอยู่มาก (ดูจากรถยนต์ที่จอด) จะแวะลอง แวะพักเหนื่อยก็ดีเหมือนกัน
Discover Cool Things!
Trippino HOKKAIDO
ข้อมูลทั่วไป
Farm Tomita
- ที่อยู่ : Kisen Kita 15-go, Nakafurano-cho, Sorachi-gun, Hokkaido
- โทร : +81-167-39-3939
- เวลา : 8:30-18:00 (ฤดูหนาวอาจปิดเร็วขึ้น)
- Web : http://www.farm-tomita.co.jp/en/
.
การเดินทาง
- จาก Sapporo นั่ง JR ลง Naka-furano ประมาณ 2:30-3:00 ชั่วโมง แล้วแต่รถไฟ จากนั้นเดินต่อ 25 นาที
แผนที่
แอพฯ เดียวเที่ยวฮอกไกโด♪
★โหลดฟรี โหลดเลย ★
iOS : http://goo.gl/Qf5daP
Android : http://goo.gl/AxcjHG