10.14 2022

ต.ค.-พ.ย. ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่ไหนดีในฮอกไกโด 2022

.
ฤดูใบไม้ร่วง หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่าฤดูใบไม้เปลี่ยนสีคือช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านจากฤดูร้อนไปเป็นฤดูหนาว ซึ่งในฤดูนี้ต้นไม้ก็จะเริ่มเปลี่ยนใบสีเขียว ๆ ของตัวเองให้กลายเป็นสีส้มแดง แต่งแต้มสีสันให้กับฮอกไกโดในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ก่อนที่จะปล่อยให้ใบร่วงหล่น เตรียมพร้อมกับฤดูหนาวที่หิมะจะทับถมและเปลี่ยนที่นี่ให้กลายเป็นสีขาวโพลน 
.

.

อากาศในช่วงนี้ที่เริ่มเย็นลงมาอยู่ที่ประมาณ 10-15 องศาเซลเซียส ประกอบกับความสวยงามของใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี ก็ทำให้เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาของปีที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยือนฮอกไกโดกันมาก แต่ด้วยความที่ระยะเวลาของฤดูนี้ไม่ได้ยาวนานมากนักและช่วงเวลาที่ใบไม้จะแดงเต็มที่ในสถานที่ต่าง ๆ มักจะทิ้งช่วงห่างกันไม่มาก เราเลยจะมาแนะนำสถานที่ยอดนิยมในการไปชมใบไม้แดงในฮอกไกโด ให้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจวางแผนเที่ยวกันครับ


สถานที่ชมใบไม้แดงในตัวเมืองซัปโปโร
(ช่วงพีค: กลาง-ปลายเดือนตุลาคม)

.

มหาวิทยาลัยฮอกไกโด

.

.

สถานที่ยอดนิยมที่บอกได้เลยว่าห้ามพลาด กับอุโมงค์ต้นแปะก๊วยสีเหลืองอร่ามสวยงาม หรือแนวต้นป๊อปล่าร์ที่ค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง นอกจากนี้ในบริเวณอื่นของมหาวิทยาลัยก็ยังมีใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหนเลยครับ
.

.

วิธีเดินทาง: รถไฟฟ้าใต้ดินสายนัมโบคุ (สายสีเขียว) ลงที่สถานที่คิตะจูนิโจ แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

พิกัด: https://goo.gl/maps/67ADohcP8zFVMNqk6 
รายละเอียดเพิ่มเติม https://trippinotest-2023.sakuraweb.com/blog/hokkaido-university-autumn/


.

ภูเขาโมอิวะ

.

จุดชมวิวเมืองซัปโปโรยอดนิยมตลอดปี จากด้านบนยอดเขาสามารถมองเห็นตัวเมืองซัปโปโรได้อย่างชัดเจน และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณกลางถึงปลายเดือนตุลาคม ต้นไม้รอบ ๆ ภูเขาก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนสีไปเช่นกัน กลายเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สามารถมองเห็นได้จากบนโรปเวย์ ตลอดทางไปสู่ยอดเขา
.

วิธีเดินทาง: รถรางรอบเมืองซัปโปโร ลงสถานี Ropeway Iriguchi และเดินไปประมาณ 50 เมตรเพื่อรอขึ้นรถบัสไปที่สถานีกระเช้า
พิกัด: https://goo.gl/maps/qJro7TWPcPiwmV7W6


.

ศาลาว่าการฮอกไกโดหลังเก่า (ตึกอิฐแดง)

.

ตัวอาคารสีแดงสไตล์ยุโรป ตั้งตระหง่านตัดกับสีเหลืองทองของต้นแปะก๊วยที่ลานด้านหน้า (Akarenga Plaza หรือ Kita 3-jo Plaza) เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้ในเมืองซัปโปโร ศูนย์อาหารที่ชั้น 3 ของ Akarenga Terrace อาคารด้านข้างแนวต้นแปะก๊วย ก็สามารถมองเห็นแนวต้นแปะก๊วยและบรรยากาศบริเวณ Akarenga Plaza ได้ หรือหากข้ามถนนไปที่อาคาร Miredo ก็สามารถขึ้นไปที่ร้าน Starbucks ชั้น 2 และนั่งชมความสวยงามของต้นแปะก๊วยได้เช่นกัน
.

.

วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายนัมโบคุ (สีเขียว) หรือโทโฮ (สีน้ำเงิน) ก็ได้ ลงสถานี Sapporo แล้วเดินทางเดินใต้ดินต่อประมาณ 5 นาที
พิกัด: https://goo.gl/maps/ihWPaXG8rKFWcxz1A

.


.

สวนโอโดริ

.

สวนสาธารณะใจกลางเมืองซัปโปโร ที่มักจะเต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาพักผ่อนหย่อนใจ ในช่วงเดือนกันยายน ก่อนที่ใบไม้จะเปลี่ยนสีนั้น ในสวนโอโดริก็จะมีจัดงาน Sapporo Autumn Festival ที่มีทั้งอาหารแสนอร่อยมากมาย และงาน Ramen Show ซึ่งรวบรวมร้านราเมงชื่อดังมาให้ได้ลองชิมด้วย และเมื่อถึงช่วงที่ใบไม้เริ่มจะเปลี่ยนสี ก็เป็นอีกสถานที่ที่จะไปชมความสวยงามของธรรมชาติท่ามกลางเมืองใหญ่ได้ครับ
.

.

วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายใดก็ได้ ลงสถานี Odori

เว็บไซต์งาน Sapporo Autumn Festival: https://www.sapporo-autumnfest.jp/


.

สวนมารุยามะและศาลเจ้าฮอกไกโด

.

อีกหนึ่งสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโร หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับที่นี่ว่าเป็นหน่ึงในสถานที่ชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ แต่ในฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กัน สีของใบไม้ที่ไล่เฉดสีสวยงาม และภูเขาในฉากหลังด้านหลังศาลเจ้าฮอกไกโดที่ปกคลุมไปด้วยสีแดง ส้ม เหลือง จากใบไม้ที่เปลี่ยนสี ก็ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงครับ
.

.
.

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายโทไซ (สีส้ม) ลงสถานี Maruyama Koen แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
พิกัด: https://goo.gl/maps/5pgBEqndmvwSGnxN8 

.


.

สวนนากาจิมะ

.

สวนสาธารณะที่อยู่ใกล้กับย่านซูซูกิโนะ ที่นี่เองก็เป็นสถานที่ยอดนิยมทั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเช่นกัน ด้านในสวนก็มีทะเลสาบที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี ส่วนด้านหน้าหากเดินขึ้นมาจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Nakajima Koen ก็จะพบกับแนวต้นแปะก๊วยตลอดสองข้างทางเลย เหมาะที่จะเพิ่มเข้ามาเป็นอีกหนึ่งจุดแวะหากอยู่ในเมืองซัปโปโรครับ
.

.
.

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายนัมโบคุ (สีเขียว) ลงสถานี Nakajima Koen โดยที่ทางออกที่ 3 จะอยู่ที่กลางสวน แต่ทางออกที่ 1 และ 2 จะอยู่ค่อนไปทางด้านหน้าของสวน
พิกัด: https://goo.gl/maps/4g7QH3miWD7jcqYr7 

.


.

สถานที่ชมใบไม้แดงบริเวณรอบนอกของเมืองซัปโปโรและเมืองใกล้เคียง

.

Hiraoka Tree Art Center
(ช่วงพีค: กลาง-ปลายเดือนตุลาคม)

.

ที่นี่อยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองเล็กน้อย แต่ก็คุ้มที่จะเดินทางมา เพราะว่าด้านในเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลจำนวนมากเรียงรายอยู่สองข้างทางเดิน และเมื่อเปลี่ยนสีก็จะกลายเป็นอุโมงค์ใบเมเปิ้ลสีแดงสวยงาม ด้านข้างมีสวนแบบญี่ปุ่นอยู่ด้วย ซึ่งเมื่อใบไม้เปลี่ยนสีก็ให้สีสันสวยงามไปอีกแบบ
.

.
.

วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสายโทไซ (สีส้ม) ไปลงสถานี Oyachi แล้วต่อรถบัสสาย 69 หรือว่านั่งรถไฟ JR ลงสถานี Shin Sapporo ต่อรถบัสสาย 111 รถบัสทั้งสองสายลงที่สถานี 2-Chome Hiraoka 4-Jo

พิกัด: https://goo.gl/maps/whgTy97KpoKWXJdS6 


.

โจซังเคออนเซ็น (ช่วงพีค: ต้น-กลางเดือนตุลาคม)

.

เมืองออนเซ็นชื่อดังที่ตั้งอยู่ทางใต้ของซัปโปโร ในเมืองเต็มไปด้วยต้นไม้ที่พร้อมใจกันเปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ประกอบกับภูมิประเทศที่เป็นเนินเขาและมีแม่น้ำไหลผ่าน ทำให้เกิดวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม การได้แช่ออนเซ็นท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีก็เป็นอะไรที่พลาดไม่ได้เลยครับ
.

.

วิธีการเดินทาง: นั่งบัสหรือขับรถจากซัปโปโร ประมาณ 1 ชั่วโมง

พิกัด (ตัวเมืองโจซังเค): https://goo.gl/maps/TD3sVsGoHKkEMJoJ9

.


.

เขื่อนโฮเฮเคียว (ช่วงพีค: ต้น-กลางเดือนตุลาคม)

.

เขื่อนนี้ตั้งอยู่บนแม่น้ำโทโยฮิระ ใกล้กับโจซังเคออนเซ็น ทิวทัศน์ของเขื่อนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นสวยงามมาก ๆ เพราะต้นไม้รอบ ๆ เขื่อนก็จะเปลี่ยนเป็นสีเฉดต่าง ๆ สลับกันไป และมีสีสันจากต้นไม้ที่ขึ้นแทรกอยู่ตามหน้าผาหินด้านข้าง หากต้องการขึ้นไปชมวิวจากมุมสูงก็สามารถขึ้นโรปเวย์ไปได้ด้วย
.

.

วิธีการเดินทาง: นั่งบัสหรือขับรถจากซัปโปโรไปประมาณ 1 ชั่วโมง

พิกัด: https://goo.gl/maps/mhoQKF552CTJbGHg7

.


.

ลานสกีโคคุไซ (ช่วงพีค: ต้น-กลางเดือนตุลาคม)

.

ก่อนที่หิมะจะตกลงมาทับถมจนกลายเป็นลานสกี ที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่ขึ้นชื่อในเรื่องของใบไม้เปลี่ยนสี ตลอดทางบนกอนโดล่าขึ้นสู่ยอดเขาจะสามารถเห็นภูเขาที่ถูกย้อมด้วยสีเหลือง ส้ม แดง ของใบไม้ที่เปลี่ยนสี และแทรกด้วยสีเขียวเข้มจากต้นสนที่ไม่ผลัดใบ แถมวิวด้านบนก็ยังสามารถมองเห็นเมืองซัปโปโรและอ่าวอิชิคาริได้ด้วย สวยงามมาก ๆ เลยครับ นอกจากนี้ยังมีเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงด้วย ภายในงานก็จะมีอาหารจำหน่าย และมีกิจกรรมให้ได้พักผ่อนหย่อนใจกัน ในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 16 ตุลาคมครับ
.

.

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.sapporo-kokusai.jp/autumn/
พิกัด: https://goo.gl/maps/JTNK4W4pVqSXhrUy5 
วิธีการเดินทาง: นั่งรถบัสหรือขับรถจากซัปโปโรไปประมาณ 1 ชั่วโมง

.

.


.

สถานที่ชมใบไม้แดงที่เมืองอื่น ๆ ในฮอกไกโด

.

อุทยานแห่งชาติไดเซทสึซัง
(ช่วงพีค: ขึ้นกับสถานที่ ตั้งแต่กลางเดือนกันยายนไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม)

.

พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติไดเซทสึซังนั้นเป็นแนวเทือกเขาอยู่ที่ใจกลางของเกาะฮอกไกโด กว้างขวางกินอาณาเขตหลายเมือง โดยยอดเขาที่สูงที่สุดคือยอดเขาอาซาฮิดะเกะ และยังเป็นภูเขาไฟที่ยังคงมีพลังอยู่ ในบริเวณรอบ ๆ ก็จะมีเส้นทางเดินป่าหลากหลายเส้นทาง และเมืองออนเซ็นมากมายให้เลือกไปพักผ่อนหย่อนใจกัน หรือหากชอบมาเที่ยวแบบตั้งแคมป์ที่นี่ก็มีหลายแคมป์ให้เลือกได้เลย
.

อากาศที่นี่จะเย็นลงก่อนในเมือง เพราะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า และนั่นทำให้ใบไม้ในบริเวณนี้เปลี่ยนสีก่อน ในบางพื้นที่จะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่กลาง-ปลายเดือนกันยายน ยาวไปจนถึงต้น-กลางเดือนตุลาคมเลยทีเดียว
.

.

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม เจาะลึกสถานที่ยอดนิยมภายในอุทยานแห่งชาติไดเซทสึซังได้ที่นี่
.

คลิกอ่านต่อได้เลย

.
.

นอกจากนี้ก็มีอีกจุดหนึ่งที่อยากจะแนะนำก็คือโทคาจิดะเกะออนเซ็น ซึ่งคนญี่ปุ่นหลายคนนิยมมาที่นี่ ที่ด้านในมีออนเซ็นแบบกลางแจ้ง ที่เราจะสามารถชมวิวของใบไม้เปลี่ยนสีรอบ ๆ ภูเขาได้แบบ 360 องศา หรือถ้าหากไม่ใช่สายแช่ออนเซ็นก็สามารถเดินตามทางเดินป่าเพื่อไปชมธรรมชาติอันสวยงามโดยรอบได้ครับ
.

.
.

.

ทะเลสาบโนโทโระ (ช่วงพีค: กลาง-ปลายเดือนกันยายน)

.

ทะเลสาบในเมืองอะบาชิริ ที่ทางใต้ของทะเลสาบในเขต Ubaranai เต็มไปด้วยต้นซังโกโซ (glasswort) ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นซังโกโซเป็นพืชที่มีลักษณะเป็นปล้อง จะขึ้นในบริเวณที่ราบลุ่มน้ำเค็ม และที่นี่ยังมีต้นซังโกโซมากที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย แต่ก่อนที่จะไปควรเช็คช่วงเวลาน้ำขึ้น-น้ำลงก่อน เพราะในช่วงที่น้ำขึ้นก็จะท่วมมิดต้นซังโกโซ
.

วิธีการเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี JR Abashiri ไปประมาณ 20 นาที

พิกัด ​(เขต Ubaranai): https://goo.gl/maps/ueKEDCpPtBpzrTMg8 


.

ทะเลสาบอะคัง (ช่วงพีค: ต้น-กลางเดือนตุลาคม)

.

บ้านของสาหร่าย “มาริโมะ” ลูกกลม ๆ สุดน่ารัก แต่นอกจากสาหร่ายมาริโมะที่เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่แล้ว ช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ทะเลสาบนี้ก็มีวิวที่สวยงามขึ้นชื่อไม่แพ้กัน รอบ ๆ ทะเลสาบก็มีโรงแรมและเรียวกังหลายแห่งให้เข้าไปแช่ออนเซ็นผ่อนคลายท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีและทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลสาบครับ
.

วิธีการเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี JR Kushiro ประมาณ 2 ชั่วโมง

พิกัด: https://goo.gl/maps/9sL43n91zh7ATSQ7A 

.


.

สวนทาคิโนะอุเอะ (ช่วงพีค: ต้น-กลางเดือนตุลาคม)

.

สวนนี้ตั้งอยู่ข้างแม่น้ำยูบาริในเมืองยูบาริ เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องเมล่อนนั่นเอง ตลอดสองฝั่งแม่น้ำจะสามารถมองเห็นใบไม้สีเขียว เหลือง ส้ม แดง สลับกันสวยงาม และในบริเวณนั้นก็มีสะพานสีแดงซึ่งเข้ากันได้ดีกับใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีด้วย

วิธีการเดินทาง: ขับรถจากซัปโปโรประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

พิกัด: https://goo.gl/maps/gA9SLrCa4oh45HGk6 

.


.

บ่อน้ำสีฟ้าและน้ำตกชิราฮิเกะ (ช่วงพีค: ปลายเดือนกันยายน-ต้นเดือนตุลาคม)

.

บ่อน้ำสีฟ้าชิโระกาเนะ หรือที่หลายคนเรียกว่าบ่อฟ้า และน้ำตกชิราฮิเกะ สองสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองบิเอะที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก น้ำในบ่อน้ำและน้ำตกนั้นมีสีออกไปทางสีฟ้า เนื่องจากเป็นน้ำที่ชะล้างพาอะลูมิเนียมจากหินผาในบริเวณน้ำตก และอะลูมิเนียมในน้ำนี้เองที่ทำให้น้ำกลายเป็นสีฟ้าสว่าง
.

แม้ว่าเราอาจจะคุ้นเคยกับทั้งสองสถานที่นี้ในฤดูหนาวที่จะเห็นน้ำสีฟ้าตัดกับหิมะสีขาว แต่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ที่รายล้อมอยู่รอบ ๆ บ่อฟ้าและบนภูเขาใกล้เคียงก็สร้างสีสัน ทั้งสีเขียว ส้ม เหลือง แดง มาตัดกับสีฟ้าของน้ำและสีฟ้าของท้องฟ้า เกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตาไปอีกแบบ หากได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวในฮอกไกโดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่ห้ามพลาดเลยครับ
.

.
.
.

วิธีเดินทาง: ขับรถไปจะสะดวกที่สุด หรือนั่งบัสจาก JR บิเอะไปได้
พิกัดบ่อน้ำสีฟ้าชิโระกะเนะ: https://goo.gl/maps/N8LDN2MPNc6SZteN9 
พิกัดน้ำตกชิราฮิเกะ: https://goo.gl/maps/Ggo2WtE2hErAhR7CA 

.

.


.
.
Discover Cool Things!
Trippino HOKKAIDO


Blog Search

Category

Recent Posts

Archive

Instagram