03.07 2023

เดินเล่นงาน Sapporo Snow Festival ครั้งที่ 73 หลังจากห่างหายกันไปกว่า 3 ปี


.

กลับมาจัดงานอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในรอบ 3 ปี สำหรับงานเทศกาลหิมะซัปโปโร หรือ Sapporo Snow Festival ที่ในปี 2023 นี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 73 แล้ว หลังจากที่ถูกงดไปในปี 2021 และจัดงานในรูปแบบออนไลน์ในปี 2022 ซึ่งในปีนี้งานเทศกาลหิมะซัปโปโรจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
.

.

แม้ในปีนี้งานจะไม่ได้จัดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนช่วงก่อนที่จะมีโควิด อย่างที่สวนโอโดริปีนี้จัดงานถึงแค่บล็อกที่ 10 และไม่มีการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ (ที่ทีมไทยมาคว้าแชมป์กลับไปแทบทุกปี) แต่ก็มีผู้มาเยี่ยมชมมากกว่า 1.75 ล้านคน มากกว่างานแบบ on-site ครั้งล่าสุดในปี 2020 ซะอีก! ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองน่าจะคิดถึงเทศกาลหิมะกันมาก ๆ เลยทีเดียว และก็เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คิดถึงเทศกาลหิมะแต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมชม วันนี้เราเลยจะพาไปเดินเที่ยวเทศกาลในปีนี้ พร้อมกับแนะนำไฮไลท์ แลนด์มาร์ค และวิธีการเตรียมตัวต่าง ๆ เพื่อมาสนุกไปกับเทศกาลหิมะในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไปกัน

ก่อนจะไปสู่ช่วงแนะนำบริเวณต่าง ๆ ภายในงาน ต้องบอกก่อนว่าปกติแล้วงานเทศกาลหิมะซัปโปโรจะจัดขึ้นใน 3 สถานที่ด้วยกัน ได้แก่สวนโอโดริ ย่านซูซูกิโนะ และทสึโดม (ใกล้กับสนามบินโอคาดามะ คนละที่กับซัปโปโรโดม) แต่ว่าในปีนี้ไม่มีการจัดงานที่ทสึโดม จึงเหลือแค่บริเวณสวนโอโดริและย่านซูซูกิโนะเท่านั้น แต่ในบริเวณอื่น ๆ ภายในเมืองก็มีการจัดกิจกรรมอื่นอีกมากมายในช่วงเวลาใกล้เคียงกันด้วย ซึ่งเราจะรวมไว้คร่าว ๆ ในตอนท้ายของบล็อกนะครับ

เราสามารถเดินเที่ยวในเทศกาลหิมะซัปโปโรและซูซูกิโนะไอซ์เวิลด์ได้ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน โดยในเวลากลางวันก็จะสามารถเห็นรายละเอียดของงานแกะสลักได้อย่างชัดเจน และในช่วงกลางวันก็มีกิจกรรมต่าง ๆ บนเวทีในงานที่เราสามารถร่วมสนุกได้ ส่วนในเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.30 – 22.00 น. ก็จะมีการเปิดไฟประดับ และในบางจุดก็มีโชว์ประกอบแสงสีเสียงตระการตาให้ได้รับชม

.

.

.

สวนโอโดริ: เทศกาลหิมะซัปโปโร


ในปีนี้เทศกาลหิมะจัดครอบคลุมตั้งแต่บล็อกที่ 1 ไปจนถึง 10 ของสวนโอโดริครับ เรามาเริ่มที่บล็อกที่ 1 กันเลย

.

บล็อกที่ 1


บล็อกที่ 1 คือบล็อกที่อยู่ทางตะวันออกที่สุดของสวน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Sapporo TV Tower นั่นเอง โซนบริเวณใต้ TV Tower นั้นเปิดเป็นโซนอาหาร ซึ่งก็มีอาหารและเครื่องดื่มน่าอร่อยมากมายไม่ว่าจะเป็นเกาลัดคั่ว, อิชิคารินาเบะ (ซุปปลาแซลมอน), ทาโกะยากิ, เครื่องดื่มร้อน และอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ ในบริเวณของบล็อกที่ 1 มีกิจกรรมให้ได้ลองเล่นกีฬาฤดูหนาวอย่างเคอร์ลิ่ง (Curling) แบบฟรี ๆ และมีอ่างน้ำร้อนสำหรับแช่เท้าที่เปิดให้บริการฟรีในวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ด้วย ตรงกลางของบล็อกนี้ก็มีต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ประดับไฟสวยงามให้ได้ถ่ายรูปกัน ในบริเวณรอบ ๆ ก็มีร้านขายสินค้าที่ระลึกมากมาย
.

.
.

.

.
บล็อกที่ 2

ถัดมาที่บล็อกที่ 2 บล็อกนี้มีชื่อว่า Art Square ซึ่งครึ่งหนึ่งของบล็อกนี้เป็นส่วนของการประกวดแกะสลักหิมะของนักเรียนนักศึกษา และอีกครึ่งหนึ่งเป็นโซนของ “Snow Miku” ที่ได้รับความนิยมมากขนาดที่ว่าสินค้าที่ระลึกจำหน่ายเกือบจะหมดภายในวันแรกของเทศกาลหิมะเลยทีเดียว ในบริเวณตรงกลางของบล็อกก็มีเครื่องดนตรีที่ทำจากน้ำแข็ง โดยในเวลากลางคืนจะมีโชว์พร้อมแสงสีเสียงที่สวยงามมาก ๆ ครับ ในบริเวณใกล้เคียงก็มีพื้นที่สำหรับให้พักผ่อนหลบอากาศหนาวชั่วคราวด้วย
.

.

.
บล็อกที่ 3

ในบล็อกนี้เป็นบล็อกที่จัดแสดงรูปแกะสลักหิมะจากชาวเมืองและศิลปินในฮอกไกโด จะมีรูปแกะสลักหิมะขนาดเล็กจำนวนมากตั้งอยู่ในบล็อกให้เราสามารถไปถ่ายภาพกัน ถ้าหากขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินหรือเดินมาที่สวนด้วยทางเดินใต้ดิน บล็อกนี้จะอยู่ฝั่งทางออกหมายเลข 6 และ 8 ที่ทางเดินเข้า Aurora Town ครับ
.

.
.

.
บล็อกที่ 4

ฝั่งตะวันตกของบล็อกมีรูปแกะสลักหิมะขนาดใหญ่ เป็นรูปไดโนเสาร์ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ทีเร็กซ์” คู่กับไดโนเสาร์ “คามุยซอรัส” ที่ได้มีการค้นพบฟอสซิลที่เมืองมุคาวะ ซึ่งในยุคครีเทเชียส หรือเมื่อ 72 ล้านปีก่อน ไดโนเสาร์ทั้งสองชนิดนี้เคยมีชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่ปัจจุบันเป็นฮอกไกโด ส่วนฝั่งตะวันออกของบล็อกที่ 4 มีรูปแกะสลักหิมะขนาดรองลงมา เป็นตัวละครจากเกมส์ Blue Archive น่ารักมาก ๆ ครับ
.

.
.

บล็อกที่ 5

บล็อกที่ 5 เป็นบล็อกของหนังสือพิมพ์ฮอกไกโดชิมบุน ที่มีรูปแกะสลักหิมะเป็นรูปม้าแข่งขนาดใหญ่ ในช่วงเวลากลางวันจะใช้เป็นเวทีจัดกิจกรรม ส่วนในเวลากลางคืนมีโชว์ projection mapping ที่เป็นการฉายภาพกราฟฟิคลงบนรูปแกะสลัก แสดงประกอบแสงสีเสียงสุดอลังการ บอกเลยว่าเจ๋งมาก ๆ บริเวณอื่น ๆ ในบล็อกนี้ก็มีบูธขายของที่ระลึกและมีพื้นที่ให้นั่งพักหลบหนาวได้ด้วย


.
บล็อกที่ 6

ที่บล็อกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายของที่ระลึกทั้งของงานเทศกาลหิมะและของที่ระลึกจากเมืองซัปโปโร และมีศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวตั้งอยู่ ถ้าหากต้องการข้อมูลหรือต้องการความช่วยเหลือก็สามารถเข้าไปสอบถามได้เลย นอกจากนี้ในบริเวณบล็อกก็มีรูปแกะสลักหิมะขนาดเล็กตั้งอยู่ประปรายครับ
.

.

.
บล็อกที่ 7

รูปแกะสลักหิมะขนาดใหญ่ที่โดดเด่นเป็นสง่ารอต้อนรับผู้มาเยือนในบล็อกนี้คือรูปจำลองอาคารภายใน Embley Park ประเทศอังกฤษ ซึ่งเคยเป็นบ้านพักฤดูหนาวของครอบครัวไนติงเกล โดยทางสถานีโทรทัศน์ HBC ที่เป็นผู้ออกแบบรูปแกะสลักในบล็อกนี้ตั้งใจที่จะสร้างเพื่อแทนคำขอบคุณให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนักในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ซึ่งบริเวณนี้ถูกใช้เป็นหนึ่งในเวทีกิจกรรมหลักของงาน และในเวลากลางคืนก็มีโชว์ต่าง ๆ บนเวที ประกอบกับไฟหลากสีสวยงาม

รอบ ๆ ภายในบล็อกที่ 7 ก็มีรูปแกะสลักหิมะขนาดเล็กอีกมากมาย รวมถึงตัวละครจาก My Hero Academia และร้านขายของที่ระลึกจากอนิเมะเรื่องนี้ และมีรูปแกะสลักที่มีสไลเดอร์ให้เด็ก ๆ เล่นได้ด้วยครับ
.

.
.

.
บล็อกที่ 8

อีกหนึ่งรูปแกะสลักหิมะขนาดใหญ่ เป็นรูปจำลองของอาคาร Hohei-kan ที่หลายคนอาจจะคุ้นตา อาคารแห่งนี้คืออาคารไม้สีขาวที่มีหลังคาสีฟ้า ตั้งอยู่ภายในสวนนากาจิมะในเมืองซัปโปโร เราสามารถมองเห็นรายละเอียดอันสวยงามของรูปแกะสลักได้ในตอนกลางวัน และเมื่อถึงเวลากลางคืน ที่นี่ก็จะมี projection mapping แสงสีเสียงสุดอลังการ ร้อยเรียงเป็นเรื่องราวประวัติเมืองซัปโปโร 
.

.
.

.
บล็อกที่ 9

บล็อกที่ 9 นี้เต็มไปด้วยรูปแกะสลักหิมะขนาดเล็กโดยชาวเมืองซัปโปโรที่ออกแบบมาเป็นรูปต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวการ์ตูน มาสคอต วัดญี่ปุ่น หรือสิ่งที่เป็นกระแสในช่วงปีที่ผ่านมา บอกเลยว่าบล็อกนี้เดินเพลิน ถ่ายรูปเพลินมากครับ
.

.
.

.
บล็อกที่ 10

สุดท้ายที่ฝั่งตะวันตกสุดของสวนโอโดริ คือที่ตั้งของรูปแกะสลักของ Hokkaido Ballpark F Village เป็นรูป Es Con Field Hokkaido สนามเบสบอลแห่งใหม่ของทีมเบสบอล Hokkaido Nippon Ham Fighters และทสึโยชิ ชินโจ ผู้จัดการทีม สนามเบสบอลนี้ตั้งอยู่ในบริเวณเมืองคิตะฮิโรชิมา และจะเปิดการแข่งขันนัดแรกของฤดูกาลในวันที่ 30 มีนาคมนี้ อีกฝั่งของบล็อกเป็นโซนของบริษัทนิชชิน ที่ด้านในมีกิจกรรมมากมายเช่น sled (นั่งบนห่วงยางแล้วไถลลงสไลเดอร์) หรือปาบอลหิมะ มีคนมาต่อคิวเล่นยาวมาก ๆ ทุกวัน แต่ก็น่าสนุกมากเช่นกันครับ
.

.

ย่านซูซูกิโนะ: Susukino Ice World

.

ขยับมาที่ย่านซูซูกิโนะ กับงาน Susukino Ice World ซึ่งแตกต่างไปจากเทศกาลหิมะที่สวนโอโดริตรงที่ที่นี่เป็นงานแกะสลักน้ำแข็งทั้งหมด และจัดกลางถนน ตั้งแต่แยกซูซูกิโนะลงไปทางใต้ 4 บล็อก ปิดถนนเดินกันไปเลย
.

.

ในสองบล็อกแรกเป็นรูปแกะสลักน้ำแข็งจากหน่วยงานและบริษัทต่าง ๆ แน่นอนว่าหากใครเคยมาแล้วก็จะคุ้นเคยกับรูปแกะสลักน้ำแข็งอันแรกทางซ้ายที่เป็นของร้านซูชิซันไม ทุกปีทางร้านจะทำรูปแกะสลักน้ำแข็งที่ด้านในมีปูและปลาต่าง ๆ แช่แข็งอยู่ เหมือนกับเป็นอะควาเรียมน้ำแข็งเลยก็ว่าได้ ในช่วงกลางคืนก็จะมีการเปิดไฟตกแต่งรูปแกะสลักน้ำแข็งเหล่านี้ให้สวยงามไปอีกแบบ
.

.
.

ส่วนบล็อกที่สามและสี่ เป็นการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งระหว่างวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ เราสามารถเดินไปดูผู้เข้าแข่งขันแกะสลักกันได้เลย แล้วหลังจากนั้นก็จะจัดแสดงไปจนจบงาน นอกจากนี้ด้านหน้าบล็อกที่สามก็มีจุดถ่ายภาพเป็นบ้านของหมีน้อย ประดับด้วยไฟหลากสี น่ารักมาก ๆ เลยครับ
.

.
.

.

แนะนำการเดินทางและการวางแผนเดินเที่ยวในงาน

เนื่องจากว่าด้านนอกอากาศหนาว คนเยอะ และงานครอบคลุมพื้นที่ค่อนข้างกว้าง จึงมีข้อแนะนำในการเดินทางและการเดินเที่ยวในงานดังนี้ครับ

  • อาจเริ่มจากนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายโทไซ (สีส้ม) ไปลงสถานีนิชิจูอิตโจเมะ (Nishi 11-chome) เพื่อเริ่มเดินจากโอโดริบล็อกที่ 10 ก่อน แล้วเดินเที่ยวไปจนสุดที่บล็อกที่ 1
  • จากนั้นลงไปใต้ดิน แล้วเดินทะลุ Aurora Town มาถึงทางเดินใต้ดินสถานีโอโดริ แล้วต่อรถไฟใต้ดิน หรือเดินทางเดินใต้ดินไปสถานีซูซูกิโนะ เพื่อไปเดินที่ Susukino Ice World ต่อ

โดยการเดินในงานทั้งหมดอาจจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ขึ้นกับเวลาที่ใช้ในแต่ละบล็อกและเวลาในการหยุดพักหลบอากาศหนาว
.


อาหารและของที่ระลึก

.

.

บูธอาหารส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในบล็อกที่ 1 ใต้ TV Tower แต่รอบ ๆ งานก็จะมีบูธอาหารอยู่บ้างประปราย และบูธอาหารส่วนใหญ่ก็จะจัดที่นั่งรับประทานที่มีฮีทเตอร์ไว้ให้หลบหนาวด้วย ส่วนบูธขายของที่ระลึกนั้นมีอยู่แทบจะทุกบล็อก แต่บางครั้งแต่ละบล็อกก็อาจจะมีสินค้าบางอย่างที่แตกต่างกันไปตามธีมของบล็อกนั้น ๆ สามารถแวะชมแวะช็อปได้ทุกบล็อกเลยครับ
.

.
.
.

.

ข้อควรระวัง

.

  • อากาศหนาวมาก เนื่องจากปกติแล้วงานเทศกาลหิมะจะจัดตรงกับช่วงที่หนาวที่สุดของแต่ละปี อุณหภูมิตอนกลางวันอาจต่ำสุดได้ถึง -6 ถึง -8 องศาเซลเซียส ดังนั้นถ้าหนาวเกินไปแล้วรู้สึกว่าไม่ไหว ให้รีบหาจุดแวะพักเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย หรือซื้อไคโระ (ถุงทรายร้อน) ติดตัวไว้ แกะออกมาใส่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทข้างละอันให้มือเราอบอุ่นเอาไว้จะดีที่สุด
  • พื้นลื่นมาก หิมะที่ถูกคนจำนวนมากเดินเหยียบในทุกวันสามารถกลายเป็นก้อนน้ำแข็งมันวาวได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แม้จะมีการโรยกรวด-ทรายกันลื่น แต่ก็ไม่ได้ช่วยได้มากขนาดนั้น ดังนั้นจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินมาก ๆ

.

กิจกรรมอื่น ๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน-ใกล้เคียงกัน
(วันที่จัดงานเป็นวันจัดงานของปี 2023 สำหรับปีอื่น ๆ ต้องรอประกาศภายหลังในช่วงกลาง-ปลายปีนี้)

.

– 3-12 ก.พ. Smile Rink Sapporo ลานไอซ์สเก็ตกลางแจ้ง ด้านหน้าศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (Akarenga) 

– 11-12 ก.พ. 北大白銀祭 (Hokudai Hakuginsai) งานประดับไฟกลางหิมะภายในมหาวิทยาลัยฮอกไกโด

– 11-12 ก.พ. 雪あかり in 中島公園 (Yuki akari in Nakajima Koen) งานประดับไฟกลางหิมะรอบๆ สวนนากาจิมะ ซัปโปโร และมี Sapporo Snow Stage in Nakajima Park ที่มีการแสดงต่างๆ และมีเวิร์คชอปให้ร่วมทำ snow candle ในช่วงบ่ายด้วย

– 11-18 ก.พ. 小樽雪あかりの路 (Otaru Yuki Akari no Michi หรือที่รู้จักกันว่า Otaru Snow Light Path) งานประดับไฟสุดโรแมนติกในเมืองโอตารุ


ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานเทศกาลหิมะได้ที่
เว็บไซต์ของงาน
https://www.snowfes.com/en/
รายละเอียดการจัดงานในปีนี้
https://www.snowfes.com/uploads/sapporo-snow-festival_73rd_multilingual.pdf 
.
.
หวังว่าในปีหน้าหรือปีถัด ๆ ไป ทุกท่านจะได้มาสัมผัสอากาศหนาวและสนุกไปกับงานเทศกาลหิมะนะครับ
.


.
.
Discover Cool Things!
Trippino HOKKAIDO



Blog Search

Category

Recent Posts

Archive

Instagram